ดูแลตัวเองหลังขูดหินปูนอย่างไร
คราบหินปูที่ฟันของเราคือตัวร้ายที่ต้องถูกกำจัดออกไป ทันตแพทย์จึงแนะนำให้เราเข้ารับการตรวจสุขภาพและขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอ แต่หลายคนกลับพบปัญหา หลังขูดหินปูนแล้ว กลับมีเลือดออกไม่ยอมหยุด, ขูดหินปูนแล้วเสียวฟัน ทานอะไรก็ไม่อร่อย มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ ว่าหลังขูดหินปูนต้องดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้มีปัญหากวนใจเหล่านี้

คราบหินปูนที่ฟันเกิดขึ้นได้อย่างไร
หินปูนที่อยู่บนผิวฟันของเราเกิดจากการสะสมของจุลินทรีย์หรือคราบอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันของเราจนกลายเป็นฟิล์มเคลือบอยู่บนฟัน หรือที่เรียกว่าคราบพลัค หากเราไม่ทำความสะอาดเอาคราบพลัคออกให้หมด คราบพลัคเหล่านั้นจะจับตัวเป็นก้อนแข็งติดตามคอฟันกลายเป็นคราบหินปูน ซึ่งหากกลายเป็นคราบหินปูนแล้วเราจะไม่สามารถทำเอาออกเองได้ ต้องให้ทันตแพทย์ทำการขูดออกให้เท่านั้นเพราะต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยคลื่นความถี่สูง ในการขจัดคราบหินปูนฝังลึก

ข้อดีของการขูดหินปูนที่ฟันเป็นประจำ
1. ช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุ เหงือกร่น เหงือกอักเสบ รากฟันอักเสบ
2. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคปริทันต์ในช่องปาก รวมถึงความเสี่ยงการเกิดมะเร็งในช่องปาก
3. ทำให้ฟันของเรายังคงแข็งแรง มีสุขภาพดี
4. ฟันสะอาด ลดปัญหากลิ่นปาก ทำให้คุณยิ้มและพูดคุยได้อย่างมั่นใจ

หลังขูดหินปูนต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง
1. หลังขูดหินปูนเลือดออกตามขอบเหงือกบ้างซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ (มักพบในผู้ที่มีหินปูนสะสมมาก) โดยเลือดจะหยุดไหลเองภายใน 1 – 2 ชั่วโมง คนไข้ไม่ควรบ้วนน้ำบ่อยเพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้า หากครบ 2 ชั่วโมงแล้วเลือดยังไม่หยุดไหลแนะนำให้รีบปรึกษาทันตแพทย์
2. หลังขูดหินปูนแล้วอาจมีอาการระบมหรือเสียวฟัน ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แรก แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน
3. ควรงดการรับประทานอาหารรสจัด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ฟันเหลืองเร็ว
สำหรับผู้ที่มีคราบหินปูนสะสมเป็นจำนวนมาก อาจไม่สามารถขูดจนหมดในครั้งเดียวได้ แนะนำให้กลับไปขูดหินปูนให้หมดตามที่ทันตแพทย์นัด
4. การสะสมของหินปูนยังเกิดขึ้นในทุกๆ วัน ดังนั้นเราควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดคราบหินปูนตามคอฟัน

วิธีช่วยลดคราบหินปูนที่ฟัน
1. ควรแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
2. ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยทำความสะอาดในจุดที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
3. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟูลออไรด์ที่ช่วยป้องกันฟันผุและลดโอกาสเกิดแบคทีเรียในช่องปาก
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันเหลือและกลิ่นปาก